ทำไมชาวนาญี่ปุ่นจึงขายข้าวได้ราคาแพงมาก?

Last updated: 29 ก.ย. 2566  |  5581 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ทำไมชาวนาญี่ปุ่นจึงขายข้าวได้ราคาแพงมาก?

คำ ผกา กระซิบ
ข้าวที่เพิ่งสร้าง สตอรีแห่งข้าวญี่ปุ่น


HIGHLIGHTS:
JA หรือกลุ่มสหกรณ์การเกษตรระดับชาติ
ที่เกิดจากการรวมกลุ่มของชาวนา
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
มีอำนาจในการต่อรอง
นโยบายของรัฐได้ทุกยุค


เนื่องจากกุมเสียง
ที่เป็นปัจจัยชี้เป็นชี้ตาย
ของอนาคตพรรคการเมือง
รัฐบาลญี่ปุ่นมีการอุดหนุนเกษตรกร
โดยเฉพาะชาวนา


ทั้งการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าข้าวสูงถึง 777%
เพื่อรักษาระดับราคาข้าวให้แพงอย่างสม่ำเสมอ
การเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจา
การค้าเสรีหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ
เอเชีย-แปซิฟิกหรือ TPP และ
การประกาศจะยกเลิก
การอุดหนุนและปกป้องภาค
การเกษตรทั้งหมดภายในปี 2019
ของ ชินโซะ อาเบะ


ทำให้ญี่ปุ่นไม่สามารถ
ดำเนินนโยบายปกป้องสินค้า
การเกษตรและการอุดหนุนเกษตรกรได้อีกต่อไป


เวลาเราพูดเรื่องชาวนา และข้าว
คนไทยมักเปรียบเทียบข้าวไทย
ชาวนาไทย กับข้าวญี่ปุ่นและคนญี่ปุ่นเสมอ


เรามักอ่านเรื่องราวของข้าว
โคชิฮิการิอันแสนแพงของญี่ปุ่นด้วยความทึ่ง
“ดูสิ ทำไมชาวนาญี่ปุ่นถึงขายข้าวได้ราคาแพงจัง”
“ประเทศญี่ปุ่นดีจังเลย ชาวนาเขาร่ำรวยมาก
ไม่ยากจนเหมือนชาวนาไทย”
“ข้าวเขาคุณภาพดีจัง
ชาวนาเขามีความรู้ แพ็กเกจจิ้งข้าวก็สวย
เกษตรกรบ้านเราน่าเอาเยี่ยงอย่าง”
ฯลฯ


อะไรทำให้ข้าวญี่ปุ่นเป็นเช่นนั้น?
กลุ่มสหกรณ์ชาวนา ฐานเสียง
และอำนาจการต่อรอง
นับตั้งแต่ญี่ปุ่นปลดแอกตัวเอง
ออกมาจากระบบศักดินา
ด้วยกฎหมายการปฏิรูปที่ดินในปี 1946
ที่ทำให้ที่ดินหลุดออกมา
จากมือตระกูลเจ้าที่ดิน ขุนนาง
สู่มือของชาวนาสามัญชน
พร้อมๆ กับการมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
กำเนิดของพรรคการเมือง
การรวมกลุ่มของชาวนาตั้งแต่
ยุคสงครามโลกครั้งที่สอง

ได้พัฒนาขึ้นมาเป็นกลุ่มสหกรณ์ชาวนา
ที่รู้จักกันในนามของ JA หรือ
Japanese Agricultural Coopertives
กลุ่ม JA ปัจจุบัน บริหารสหกรณ์
694 แห่งทั่วประเทศ


มีสมาชิกอย่างเป็นทางการ 4.6 ล้านคน
และสมาชิกเครือข่ายรวมแล้ว 5.4 ล้านคน
บริหารสหกรณ์ระดับ เทศบาล
และจังหวัดทั่วประเทศ


มีธนาคารเครดิตยูเนียน
และธุรกิจประกันเป็นของตนเอง
จำนวนสมาชิกของ JA คือฐานเสียงสำคัญ
ของพรรค LDP มาตั้งแต่ปี 1955
JA คือกลุ่มสหกรณ์การเกษตรระดับชาติ
ที่มีอำนาจในการต่อรอง
ล็อบบี้ นโยบายของรัฐ
ได้ทุกยุค เนื่องจากกุมเสียง
ที่เป็นปัจจัยชี้เป็นชี้ตาย
ของอนาคตพรรคการเมืองได้
จึงไม่ต้องแปลกใจที่รัฐบาลญี่ปุ่น
มีการอุดหนุนเกษตรกร โดยเฉพาะชาวนา
ทั้งการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าข้าวสูงถึง 777%


การควบคุมผลผลิตข้าว
เพื่อรักษาระดับราคาข้าวให้แพงไว้อย่างสม่ำเสมอ
ด้วยการจ่ายเงินชดเชยสำหรับเกษตรกรที่งดปลูกข้าว
เพื่อป้องกันข้าวล้นตลาด


เพราะฉะนั้นราคาข้าวอันสูงลิ่วในญี่ปุ่น
จึงมาจากพลังการล็อบบี้ทางการเมือง
ของกลุ่มสหกรณ์ชาวนาในฐานะหัวคะแนนของ ส.ส. และ
ความพยายามยึดกุมอำนาจ
ในการบริหารกระทรวงเกษตร
ป่าไม้ และประมง
ผ่านการกุมคะแนนเสียงเลือกตั้ง
ของกลุ่มสหกรณ์นั่นเอง
หาใช่เกิดจากความดีความอันเหลือเชื่อใดๆ ไม่


‘ข้าว’ พลังวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และชาตินิยม
ไม่เพียงแต่พลังทางการเมือง
ยังมีพลังทางวัฒนธรรมด้วย


ขอยกตัวอย่าง บทสัมภาษณ์ Tetsuhiro Yamaguchi
เจ้าของร้านอาหารชื่อ Kokoromai (Heart of Rice)
จากบทความ ‘You are what you eat:
Can a country as modern as Japan
cling onto a culture as ancient as rice’
ของ The Economist
(http://www.economist.com/node/15108648)


บทความนี้พูดถึงประวัติศาสตร์ ‘ข้าว’
ในสังคมญี่ปุ่น และพูดถึงภาวะ ‘ขาลง’ ของชาวนา
และข้าวในญี่ปุ่น
แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีคนแบบ Tetsuhiro Yamaguchi
ที่พยายามอย่างสุดความสามารถ
ในการยื้อ ‘ชีวิต’ ของข้าวญี่ปุ่นเอาไว้


ยามากุจิ ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่เชื่อว่า
จิตวิญญาณของข้าวคือส่วนหนึ่ง
แห่งดีเอ็นเอของความเป็นญี่ปุ่น และ
ปรารถนาให้การกินข้าวนั้นละเมียดละไม
ไม่ต่างจากการชิมไวน์


ยามากุจิทำให้ประสบการณ์การกิน ‘ข้าว’
ในร้านอาหารของเขา
เป็นประหนึ่งสุนทรียะแห่งนาฏศิลป์
ด้วยการตกแต่งร้านด้วยโทนแสงค่อนข้างมืด
มีข้าวหุงสุกในหม้อดินวางเรียง
และรายล้อมด้วยจานซาชิมิที่ทำจากดินเผา
เขาค่อยๆ เปิดฝาหม้อข้าวให้ไอร้อนพวยพุ่งออกมา
ข้าวสวยในหม้อเรียงเมล็ดอวบสีขาวกระจ่าง
งามราวกับไข่มุกเนื้อดี
“ข้าวเหมือนแบ็กดรอปบนเวทีโรงละคร
เวทีนี้ต้องการดาราและตัวละคร
ตรงนั้นแหละที่ซาชิมิจะปรากฏตัว”


ยามากุจิไม่ใช่คนเดียวที่พรมบทกวีลงบนเมล็ดข้าว
คนญี่ปุ่นจำนวนมากเปรียบเทียบ
สีขาวบริสุทธิ์ของเมล็ดข้าว
กับจิตวิญญาณแบบญี่ปุ่นแท้ และ
ความขาวบริสุทธิ์นี้ไม่พึงจะถูกแปดเปื้อน
ด้วยหยดของโชยุแม้แต่หยดเดียว
การกินข้าวกับปลาสะท้อนความสัมพันธ์
ของข้าวกับน้ำในท้องทุ่ง
คือแนวคิดว่าด้วยความกลมกลืน
เป็นหนึ่งเดียวแห่งธรรมชาติที่คนญี่ปุ่น
เห็นว่าสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด และ


มีสุภาษิตญี่ปุ่นที่บอกว่า
“รวงข้าวที่หนักเท่าไร ก็ยิ่งค้อมลงต่ำมากเท่านั้น”
ยามากุจิจะไม่มีวัน
เสิร์ฟข้าวของประเทศอื่นในร้านเขาเลย ทำไม?
“กายร่างแห่งความเป็นญี่ปุ่น
ถูกสร้างมาด้วยข้าวญี่ปุ่น
คนญี่ปุ่นควรกินแต่ข้าวญี่ปุ่นเท่านั้น”
สีขาวของข้าว – จิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ของญี่ปุ่น
ข้าว – เลือดเนื้อแห่งความเป็นญี่ปุ่น
น้ำ ปลา ข้าว ท้องนา
ธรรมชาติที่สอดประสานเป็นอันหนึ่งอันเดียว
ซึ่งเป็นหลักปรัชญาวิถีชีวิตญี่ปุ่น


รวงข้าวที่ค้อมหนักถ่อมตัว
คือนิสัยใจคอของคนญี่ปุ่น
ข้าวต่างชาติ คือสิ่งแปลกปลอม
กลิ่นอายแห่งความเป็น ‘ชาตินิยม’ อย่างหนักหน่วง
ผ่านวัฒนธรรมการบริโภคข้าวญี่ปุ่นเช่นนี้
มีมาแต่โบราณกาลหรือไม่?


ในเทพปกรณัมแบบญี่ปุ่นเล่าว่า
ข้าวนั้นถูกประทานมาจากสรวงสวรรค์
ผ่านเทพีแห่งดวงอาทิตย์
ที่มอบให้กับลูกของเธอที่ลงมาปกครองญี่ปุ่น
แต่ความจริงคือ ข้าวถูกนำเข้ามาในญี่ปุ่น
ผ่านจีนและเกาหลีเมื่อสี่ร้อยปีก่อนคริสตกาล –
ทุกวันนี้คนญี่ปุ่นยังไม่ค่อยอยากรับความจริงว่า
ข้าวของญี่ปุ่นนั้นรับผ่านมาทางเกาหลี
แต่ข้าวไม่เคยเป็นอาหารหลักของคนญี่ปุ่น
จนถึงสมัยเอโดะ เพราะด้วยข้อจำกัด
ของระบบชลประทาน


การทำนาข้าวนั้นเป็นไปได้อย่างจำกัด
ข้าวคือความหรูหรา ถูกเสิร์ฟในชามสูงค่า
สำหรับชนชั้นสูงเท่านั้น
ส่วนคนญี่ปุ่นทั่วๆ
ไปกินธัญพืชหลายชนิด
ปะปนกันไปตามประสาคนยาก


กล่าวให้ถึงที่สุด คนญี่ปุ่นกินข้าวเป็นอาหารหลัก
เมื่อล่วงเข้าสู่ศตวรรษที่ 20 แล้วด้วยซ้ำ
ข้าวไปพัวพันกับลัทธิชาตินิยมได้อย่างไร?
ในช่วงสงคราม ความขาวของข้าวญี่ปุ่น
ถูกนำไปเชื่อมโยงกับความบริสุทธิ์ของชนชาติญี่ปุ่น และ
ข้าวต่างชาติคือ ความด่างพร้อย


นอกจากนี้ข้าวอันขาวสะอาดของญี่ปุ่น
ยังถูกจัดลงกล่องข้าว
พร้อมวางลูกบ๊วยสีแดงไว้ตรงกลาง
เป็นสัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์
เพื่อส่งไปให้ทหาร
โดยเชื่อว่าการกินข้าวญี่ปุ่น
จะทำให้ทหารญี่ปุ่นนำชัยชนะกลับมา
ข้าวจึงเป็น ‘หัวใจ’ ของความเป็นญี่ปุ่น
ในแง่มุมทางวัฒนธรรม
เป็นเลือด เป็นเนื้อ เป็นจิตวิญญาณ
และเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นชาติ


แม้ปัจจุบันการบริโภคข้าวของคนญี่ปุ่น
จะเหลือเพียงปีละ 61 กก. ต่อคนต่อปี
ในขณะที่ช่วง 1960s
บริโภคคนละ 118 กก. ต่อคนต่อปี
ภาวะ ‘ขาลง’ ของชาวนาญี่ปุ่น


การเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ TPP
หรือการเจรจาการค้าเสรีหุ้นส่วน
ทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก
ทำให้ญี่ปุ่นไม่สามารถดำเนินนโยบาย
ปกป้องสินค้าการเกษตรและ
การอุดหนุนเกษตรกรได้เช่นเดิม
หากต้องเปิดสู่ตลาดเสรีและการแข่งขัน
การตั้งกำแพงภาษีแบบเดิมทำไม่ได้
ต่อไปนี้ญี่ปุ่นต้องทำใจว่า
จะมีข้าวสายพันธุ์ญี่ปุ่นจากแคลิฟอร์เนีย
และออสเตรเลียเข้ามาขายในญี่ปุ่นด้วย


ชินโซะ อาเบะ ประกาศจะยกเลิก
การอุดหนุนและปกป้องภาคการเกษตรทั้งหมดภายในปี 2019
ชีวิตของคนญี่ปุ่นหลังการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ TPP
นี่อาจเป็นครั้งแรกที่คนญี่ปุ่น
ต้องกินข้าวที่นำเข้าจากต่างประเทศ
และน่าจะเป็นฝันร้ายของคนญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อย


โดยเฉพาะคนญี่ปุ่นแบบยามากุจิ
ที่จินตนาการไม่ได้เลยว่า
ข้าวต่างชาติที่แสนจะแปลกปลอม
จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเลือดเนื้อ ลมหายใจ
และจิตวิญญาณแบบญี่ปุ่นได้อย่างไร
การกินข้าว ‘ต่างชาติ’
ไม่ต่างอะไรจากการถูกทำให้กลายพันธุ์
ดีเอ็นเอถูกบิดเบือน และ
เสี่ยงต่อการสูญสลายหายไปในที่สุด
แง่มุมทางวัฒนธรรมและสำนึก ‘ชาตินิยม’
ต่อเรื่องข้าวนี้เองที่ทำให้การยกเลิกกำแพงภาษี
และการยกเลิกนโยบายการอุดหนุนชาวนา
อาจจะไม่ราบรื่นอย่างที่รัฐบาลของอาเบะต้องการ
ไม่แต่เพียงเกษตรกรเท่านั้นที่ปฏิเสธ Free Trade


แต่ผลโพลส่วนใหญ่ออกมาว่า
คนญี่ปุ่นแม้ต้องแบกรับภาระ
ทางภาษีในการอุดหนุนชาวนา
แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศ
ข้าวจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่พืชเศรษฐกิจ
การเมือง แต่ยังเป็นสนามประลองกำลังทางวัฒนธรรม
การปกป้องเกษตรกรญี่ปุ่น
และนโยบายอุดหนุนการเกษตรทั้งหมด


แม้จะเป็นเรื่องการล็อบบี้กัน
ทางการเมืองของกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ
กับนักการเมือง
แต่พลังที่อยู่เหนือ ‘การเมือง’
กลับเป็นพลังทาง ‘วัฒนธรรม’
และจินตนาการเกี่ยวกับข้าว
รวมถึงอัตลักษณ์แห่งความเป็นชาติญี่ปุ่น


ที่ทำให้ผู้บริโภคในประเทศเต็มใจที่จะจ่ายแพงกว่า
และหลับหูหลับตาสะกดจิตตัวเองว่า
ข้าวญี่ปุ่นที่ปลูกในญี่ปุ่นคือข้าวที่ดีที่สุดในโลก


อ้างอิง:
- http://www.japantimes.co.jp/…/the-future-of-rice-farming-…/…
- https://en.wikipedia.org/wi…/Japan_Agricultural_Cooperatives
- http://www.economist.com/node/15108648
- https://asiapacificpolicy.wordpress.com/…/the-problem-with…/


TAGS:
ข้าวญี่ปุ่น คนญี่ปุ่น ชาวนา
ข้าวไทย ชาวนาไทย
JA กลุ่มสหกรณ์การเกษตรระดับชาติ
การค้าเสรีหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก TPP
ชินโซะ อาเบะ Japanese Agricultural Coopertives
ABOUT THE AUTHOR
คำ ผกา นักเขียน คอลัมนิสต์
และพิธีกรรายการ 'คิดเล่นเห็นต่างกับคำ ผกา และ
เคน' และ 'In Her View'
RELATED POSTS

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้